#AmongPages ความเงียบสีขาว | KAIHUN
[จบแล้ว] ความเงียบของคุณเป็นสีอะไร? #AmongPages
ผู้เข้าชมรวม
38,530
ผู้เข้าชมเดือนนี้
73
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ผลงานอื่นๆ ของ มลินเวิว ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ มลินเวิว
"ความเงียบสีขาว #AmongPages"
(แจ้งลบ)ต้องรีบมาเปิดคอมพ์เพื่อเขียนมันขึ้นมาด้วยความที่ว่า ความรู้สึกหลังจากที่เพิ่งอ่านจบใหม่ๆ น่าจะบรรยายได้ตรงมากที่สุด ไม่รู้ว่าพี่มิ้วได้แรงบันดาลใจเรื่องนี้มาจากอะไร เหมือนติ๋มหรือเอ็มเคยบอกว่าพี่มิ้วไม่มั่นใจที่เขียนแนวนี้ออกมา เราแค่อยากจะบอกว่า พี่มิ้วทำมันได้ดีมากๆ เลยนะ ไม่ใช่แค่ดีมาก แต่มันครบหมดทุกอย่างในหนังสือหนึ่งที่ควรจะมี ชีวิตของจงอิน ... อ่านเพิ่มเติม
ต้องรีบมาเปิดคอมพ์เพื่อเขียนมันขึ้นมาด้วยความที่ว่า ความรู้สึกหลังจากที่เพิ่งอ่านจบใหม่ๆ น่าจะบรรยายได้ตรงมากที่สุด ไม่รู้ว่าพี่มิ้วได้แรงบันดาลใจเรื่องนี้มาจากอะไร เหมือนติ๋มหรือเอ็มเคยบอกว่าพี่มิ้วไม่มั่นใจที่เขียนแนวนี้ออกมา เราแค่อยากจะบอกว่า พี่มิ้วทำมันได้ดีมากๆ เลยนะ ไม่ใช่แค่ดีมาก แต่มันครบหมดทุกอย่างในหนังสือหนึ่งที่ควรจะมี ชีวิตของจงอินเรื่องนี้โคตรโรลเลอร์โคสเตอร์ มันดูเหมือนจะมีจุดพีคในชีวิตของเขาอยู่หลายจุด แต่ในท้ายที่สุดแล้ว สิ่งที่พีคที่สุดในชีวิตเขาก็คือเจ้าเด็กตัวผอมกับกระดาษโพสต์-อิท ทุกอย่างมันดำเนินไปในสิ่งที่มันควรจะเป็น ในแงมุมของความรู้สึกคือถ้าหากเราเริ่มต้นที่จะชอบใครซักคน มันก็ควรรู้สึกแบบที่จงอินรู้สึกในเรื่อง ซึ่งมันดีต่อใจเรามาก หลายประโยคในฟิคเรื่องนี้ทำให้คิดได้ อาจจะเป็นอะไรที่ดูเล็กน้อย แต่ความหมายของมันก็มีเอฟเฟคต์ต่อความรู้สึกคนอ่าน หลายคนพูดว่าเห็นพี่มิ้วผ่านมุมมองของจงอิน อาจจะจริง หนึ่งในนั้นคือภาพคุณยายนั่งเล่นแคนดี้ครัชแบบไม่เงยหน้า 55555 จริงๆ แล้วเราชอบคาแรคเตอร์ของเซฮุนกับจงอินเรื่องนี้มากๆ เลยอ่ะ เรารู้สึกว่าเขามีมิติในแบบของเขา อย่างน้อยเราก็รับรู้ ในแง่มุมของเรื่องราวทั้งหมดผ่านเรื่องการเล่าของจงอิน ซึ่งถ้าหากเป็นเซฮุนที่เล่ามันออกมา มันอาจจะมีแก่นสารกว่านี้(?) แต่เพราะเสน่ห์ของเรื่องนี้อยู่ที่จงอิน ทุกอย่างมันเลยดูลงตัว รู้สึกลุ้นไปด้วยกับทุกความคิดของเขา และบางทีก็เผลอลุ้นตาม ว่าเจ้าเด็กตัวผอมนั่นจะตอบว่าอะไร...ถ้าหากถามว่าฉากไหนชอบมากที่สุด มันมีอยู่สองฉากที่มันทำให้เราน้ำตาไหลตอนอ่านจบ อันนี้ไม่ได้เว่อร์นะ ชอบร้องไห้ให้กับอะไรที่ธรรมดาๆ แต่ตรึงความรู้สึกแบบนี้แหละ 5555 ซีนแรก...ที่เซฮุนเขียนใส่โพสต์-อิทตอนที่ระบายความรู้สึกออกมาหลังจากที่รู้แล้วว่าจงอินชอบ แล้วก็ตัวเองก็ชอบจงอิน มันคือความสับสนของเขาเองนั่นแหละ ที่แบบใจหนึ่งก็หวง แต่ก็กลัว ทำไมต้องมาทำให้ชอบแล้วก็จากไปไกลๆ ถึงแม้ว่าจะสัญญากัน แต่ก็เข้าใจความรู้สึกของคนที่รอนะ ว่ามันก็ต้องระแวงอยู่เหมือนกันนั่นแหละ ไม่รู้ว่าเขาจะกลับมาไหม อย่างหนึ่งคือ จงอินรู้เรื่องราวของเซฮุนหมดทุกอย่าง แต่ถ้าให้เราพูดถึงมุมมองของเซฮุน จงอินก็ยังคงไม่ได้พูดถึงชีวิตเขาทั้งหมด ถ้าให้พูดง่ายๆ คือ สมมติว่าถ้าจงอินไม่กลับมา เซฮุนก็อาจจะไม่รู้ว่าต้องไปตามหาจงอินที่ไหน มันทำให้เรารู้สึกสงสารเขาวูบหนึ่ง แต่ท้ายที่สุดแล้วมันก็ไม่ได้เป็นอย่างที่เรากลัว เพราะการจูบเด็กตัวผอมนั่นถึงสองครั้ง มันทำให้เรารู้เขาต้องรักษาสัญญา ซีนที่สอง...การปรบมือสี่ครั้งที่ทำให้หัวใจเต้นแรงกว่าแผ่นดินไหว เราหยุดยิ้มไม่ได้ พออ่านถึงตรงนี้แล้วก็ได้แค่เอามือมาทาบอก จำได้ว่าไม่อ่านฟิคแล้วใจเต้นแรงแบบนี้มานานมากพอสมควรแล้ว เรื่องนี้เป็นหนึ่งในไม่กี่เรื่องที่ทำให้เรารู้สึกแบบนั้นได้ เขิน แล้วเราก็ชอบมากที่จงอินตอบกลับไปด้วยประโยคง่ายๆ แต่ความหมายมันยิ่งใหญ่มาก แค่คำว่า คิดถึง นี่เล่นเอาเราน้ำตาไหล อยากรู้ว่าเซฮุนทนได้ยังไงกับการที่ไม่ติดต่ออะไรกลับมาเลยแต่รู้ความเคลื่อนไหวของจงอินทุกอย่าง ซึ่งถ้าให้เราคิดแบบลงลึก คิดแบบคิดไปเอง เราว่าจงอินเป็นฝ่ายบอกความเคลื่อนไหวของตัวเองให้เซฮุนรู้หมดทุกอย่างแน่ๆ โดยที่เด็กตัวผอมไม่ต้องถาม แล้วมันก็เป็นอะไรเล็กๆ น้อยๆ ที่แสดงถึงความใส่ใจอ่ะ นับถือจงอินเหมือนกันนะ เสียงก็ไม่ได้ยิน หน้าก็ไม่ได้เห็น อาจจะกลับมานั่งจอหน้าจอคอมพ์เอาไว้ให้หายเหงา แต่เรารู้สึกว่าตลอดระยะเวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ทุกชั่วโมงที่เขาใช้ด้วยกัน โพสต์-อิททั้งโลกก็อธิบายความในใจของเซฮุนไม่หมด หลังจากอ่านจบตอนนี้ก็ยังเรียบเรียงความรู้สึกของตัวเองออกมาไม่ถูก รู้แต่ว่ามันอิ่มไปหมด น้ำตาโคตรเค็มเลยตอนมันไหลเข้าปาก ในความเบาสบายของเนื้อเรื่องมันทำให้เรารู้สึกได้ผ่อนคลาย จะว่ายิ้มไปกับความบ้าบอประสาทกินของจงอินก็น่าจะถูก เขาเล่าเหมือนเราเป็นเพื่อนคนหนึ่งของเขาแล้วมึงต้องมารับรู้ชีวิตอันสัปปะรังเคของกูนะที่รัก อะไรแบบนั้น ซึ่งอันที่จริงเรื่องพวกนั้นมันก็คงเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าไม่ได้หนังสือเล่มนั้นของคิมยูจิน พูดว่าไงดี ต้องขอบคุณไหมที่จงอินหยิบมันติดมือมาด้วย? ขอบคุณเธอหน่อยก็แล้วกัน เพราะมันก็ทำให้จงอินกับเซฮุนทำได้เรื่องอะไรด้วยกันมากมายในระยะเวลาหนึ่งเดือน อันที่จริงก็อยากรู้นะว่าชุดประหลาดที่ใส่แล้วเดินกลางเมืองนั่นคืออะไร 5555555555 อีกอย่างหนึ่งที่ทำให้เราเขินแบบไม่รู้จะเขินทำไมก็คือทุกครั้งที่เขาจูบกัน คือมองความบงการในตัวจงอินออกมาว่ามันต้องบังคับน้องแน่ แต่ที่น่าตกใจกว่านั้นคือเซฮุนดันไม่คิดว่ามันแปลกและเขาก็ไม่ขัดขืน แม่เอ๊ย เสร็จโจรเฉยเลย ไงล่ะ อีนี้เป็นผีบ้า ต้องอ่านไปหยุดไป บอกจากใจว่าตอนแรกคิดว่าเรื่องมันอาจจะเศร้า ไม่รู้เพราะอะไรแต่เราดันคิดไปเองซึ่งเอ็มก็บอกว่าถ้าเราอ่านแล้วเราจะชอบ ผลปรากฏว่าไม่ใช่แค่ชอบธรรมดา ชอบมากด้วย ชอบตอนจบของเรื่องที่สุดท้ายแล้วทั้งหมดที่อ่านมาก็คือการบอกรักของคิมจงอิน บก. หนังสือที่มีเพื่อนบ้าบอ (โคตรชอบตอนที่คยองซูยื่นกล่องคอนด้อมให้เลยอ่ะ ขำก๊าก แล้วก็อีกอันคือซีนแรกที่จงอินพกเอาไว้ด้วยกล่องหนึ่งด้วยความที่ว่าอาจจะได้เมียกลับโซล อยากเบิ๊ดกะโหลกหนาๆ ซักที) สุดท้ายนี้ก็ไม่รู้จะพูดว่าอะไร หนังสือเล่มเดียวแต่ทำให้เรารู้สึกมีความสุขไปกับมันได้ เป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูก แต่ว่ารู้สึกดีมากตั้งแต่ต้นจนจบ หัวเราะไปกับจงอินแล้วก็รู้สึกดีไปพร้อมๆ กับเซฮุน ตอนแรกก็ยังไม่เข้าว่าคำว่า ‘ความเงียบสีขาว’ ดีเท่าไหร่ แต่พอได้อ่านมาถึงตอนจบถึงได้รู้ว่าทั้งหมดนั่นก็คือเซฮุน และหนังสือเล่มนี้ก็คือตัวตนของเซฮุน ซึ่งในความรู้สึกของเราน้องอาจจะไม่ได้เจอเรื่องที่มีแต่สีขาวมาในชีวิต มันถูกแต่งแต้มด้วยสีทะมึนๆ มาหนักหนาอยู่พอสมควร แต่ในท้ายที่สุดแล้วสีขาวที่มีอยู่ในตัวเขามันมีมากกว่า มีมากจนกระทั่งมันเป็นขาวบริสุทธิ์และมองไม่เห็นสีอื่นๆ อีกแล้ว ขอบคุณที่จงอินตัดสินไปช็อลลาใต้และเจอกับเด็กขี้จัการยาน กังหันลมหัก แล้วก็เอ้อ! ประทับใจเรื่องที่เขาทำกังหันลมอันใหม่ให้ด้วย ความใส่ใจเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่เล็กเลย เรารู้เลยว่าคนรับต้องรู้สึกดีมากแน่ๆ อ่านน้อยลง
MRBRIGHTSIDE94' | 17 ก.ย. 58
11
0
"ความเงียบสีขาว #AmongPages"
(แจ้งลบ)ต้องรีบมาเปิดคอมพ์เพื่อเขียนมันขึ้นมาด้วยความที่ว่า ความรู้สึกหลังจากที่เพิ่งอ่านจบใหม่ๆ น่าจะบรรยายได้ตรงมากที่สุด ไม่รู้ว่าพี่มิ้วได้แรงบันดาลใจเรื่องนี้มาจากอะไร เหมือนติ๋มหรือเอ็มเคยบอกว่าพี่มิ้วไม่มั่นใจที่เขียนแนวนี้ออกมา เราแค่อยากจะบอกว่า พี่มิ้วทำมันได้ดีมากๆ เลยนะ ไม่ใช่แค่ดีมาก แต่มันครบหมดทุกอย่างในหนังสือหนึ่งที่ควรจะมี ชีวิตของจงอิน ... อ่านเพิ่มเติม
ต้องรีบมาเปิดคอมพ์เพื่อเขียนมันขึ้นมาด้วยความที่ว่า ความรู้สึกหลังจากที่เพิ่งอ่านจบใหม่ๆ น่าจะบรรยายได้ตรงมากที่สุด ไม่รู้ว่าพี่มิ้วได้แรงบันดาลใจเรื่องนี้มาจากอะไร เหมือนติ๋มหรือเอ็มเคยบอกว่าพี่มิ้วไม่มั่นใจที่เขียนแนวนี้ออกมา เราแค่อยากจะบอกว่า พี่มิ้วทำมันได้ดีมากๆ เลยนะ ไม่ใช่แค่ดีมาก แต่มันครบหมดทุกอย่างในหนังสือหนึ่งที่ควรจะมี ชีวิตของจงอินเรื่องนี้โคตรโรลเลอร์โคสเตอร์ มันดูเหมือนจะมีจุดพีคในชีวิตของเขาอยู่หลายจุด แต่ในท้ายที่สุดแล้ว สิ่งที่พีคที่สุดในชีวิตเขาก็คือเจ้าเด็กตัวผอมกับกระดาษโพสต์-อิท ทุกอย่างมันดำเนินไปในสิ่งที่มันควรจะเป็น ในแงมุมของความรู้สึกคือถ้าหากเราเริ่มต้นที่จะชอบใครซักคน มันก็ควรรู้สึกแบบที่จงอินรู้สึกในเรื่อง ซึ่งมันดีต่อใจเรามาก หลายประโยคในฟิคเรื่องนี้ทำให้คิดได้ อาจจะเป็นอะไรที่ดูเล็กน้อย แต่ความหมายของมันก็มีเอฟเฟคต์ต่อความรู้สึกคนอ่าน หลายคนพูดว่าเห็นพี่มิ้วผ่านมุมมองของจงอิน อาจจะจริง หนึ่งในนั้นคือภาพคุณยายนั่งเล่นแคนดี้ครัชแบบไม่เงยหน้า 55555 จริงๆ แล้วเราชอบคาแรคเตอร์ของเซฮุนกับจงอินเรื่องนี้มากๆ เลยอ่ะ เรารู้สึกว่าเขามีมิติในแบบของเขา อย่างน้อยเราก็รับรู้ ในแง่มุมของเรื่องราวทั้งหมดผ่านเรื่องการเล่าของจงอิน ซึ่งถ้าหากเป็นเซฮุนที่เล่ามันออกมา มันอาจจะมีแก่นสารกว่านี้(?) แต่เพราะเสน่ห์ของเรื่องนี้อยู่ที่จงอิน ทุกอย่างมันเลยดูลงตัว รู้สึกลุ้นไปด้วยกับทุกความคิดของเขา และบางทีก็เผลอลุ้นตาม ว่าเจ้าเด็กตัวผอมนั่นจะตอบว่าอะไร...ถ้าหากถามว่าฉากไหนชอบมากที่สุด มันมีอยู่สองฉากที่มันทำให้เราน้ำตาไหลตอนอ่านจบ อันนี้ไม่ได้เว่อร์นะ ชอบร้องไห้ให้กับอะไรที่ธรรมดาๆ แต่ตรึงความรู้สึกแบบนี้แหละ 5555 ซีนแรก...ที่เซฮุนเขียนใส่โพสต์-อิทตอนที่ระบายความรู้สึกออกมาหลังจากที่รู้แล้วว่าจงอินชอบ แล้วก็ตัวเองก็ชอบจงอิน มันคือความสับสนของเขาเองนั่นแหละ ที่แบบใจหนึ่งก็หวง แต่ก็กลัว ทำไมต้องมาทำให้ชอบแล้วก็จากไปไกลๆ ถึงแม้ว่าจะสัญญากัน แต่ก็เข้าใจความรู้สึกของคนที่รอนะ ว่ามันก็ต้องระแวงอยู่เหมือนกันนั่นแหละ ไม่รู้ว่าเขาจะกลับมาไหม อย่างหนึ่งคือ จงอินรู้เรื่องราวของเซฮุนหมดทุกอย่าง แต่ถ้าให้เราพูดถึงมุมมองของเซฮุน จงอินก็ยังคงไม่ได้พูดถึงชีวิตเขาทั้งหมด ถ้าให้พูดง่ายๆ คือ สมมติว่าถ้าจงอินไม่กลับมา เซฮุนก็อาจจะไม่รู้ว่าต้องไปตามหาจงอินที่ไหน มันทำให้เรารู้สึกสงสารเขาวูบหนึ่ง แต่ท้ายที่สุดแล้วมันก็ไม่ได้เป็นอย่างที่เรากลัว เพราะการจูบเด็กตัวผอมนั่นถึงสองครั้ง มันทำให้เรารู้เขาต้องรักษาสัญญา ซีนที่สอง...การปรบมือสี่ครั้งที่ทำให้หัวใจเต้นแรงกว่าแผ่นดินไหว เราหยุดยิ้มไม่ได้ พออ่านถึงตรงนี้แล้วก็ได้แค่เอามือมาทาบอก จำได้ว่าไม่อ่านฟิคแล้วใจเต้นแรงแบบนี้มานานมากพอสมควรแล้ว เรื่องนี้เป็นหนึ่งในไม่กี่เรื่องที่ทำให้เรารู้สึกแบบนั้นได้ เขิน แล้วเราก็ชอบมากที่จงอินตอบกลับไปด้วยประโยคง่ายๆ แต่ความหมายมันยิ่งใหญ่มาก แค่คำว่า คิดถึง นี่เล่นเอาเราน้ำตาไหล อยากรู้ว่าเซฮุนทนได้ยังไงกับการที่ไม่ติดต่ออะไรกลับมาเลยแต่รู้ความเคลื่อนไหวของจงอินทุกอย่าง ซึ่งถ้าให้เราคิดแบบลงลึก คิดแบบคิดไปเอง เราว่าจงอินเป็นฝ่ายบอกความเคลื่อนไหวของตัวเองให้เซฮุนรู้หมดทุกอย่างแน่ๆ โดยที่เด็กตัวผอมไม่ต้องถาม แล้วมันก็เป็นอะไรเล็กๆ น้อยๆ ที่แสดงถึงความใส่ใจอ่ะ นับถือจงอินเหมือนกันนะ เสียงก็ไม่ได้ยิน หน้าก็ไม่ได้เห็น อาจจะกลับมานั่งจอหน้าจอคอมพ์เอาไว้ให้หายเหงา แต่เรารู้สึกว่าตลอดระยะเวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ทุกชั่วโมงที่เขาใช้ด้วยกัน โพสต์-อิททั้งโลกก็อธิบายความในใจของเซฮุนไม่หมด หลังจากอ่านจบตอนนี้ก็ยังเรียบเรียงความรู้สึกของตัวเองออกมาไม่ถูก รู้แต่ว่ามันอิ่มไปหมด น้ำตาโคตรเค็มเลยตอนมันไหลเข้าปาก ในความเบาสบายของเนื้อเรื่องมันทำให้เรารู้สึกได้ผ่อนคลาย จะว่ายิ้มไปกับความบ้าบอประสาทกินของจงอินก็น่าจะถูก เขาเล่าเหมือนเราเป็นเพื่อนคนหนึ่งของเขาแล้วมึงต้องมารับรู้ชีวิตอันสัปปะรังเคของกูนะที่รัก อะไรแบบนั้น ซึ่งอันที่จริงเรื่องพวกนั้นมันก็คงเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าไม่ได้หนังสือเล่มนั้นของคิมยูจิน พูดว่าไงดี ต้องขอบคุณไหมที่จงอินหยิบมันติดมือมาด้วย? ขอบคุณเธอหน่อยก็แล้วกัน เพราะมันก็ทำให้จงอินกับเซฮุนทำได้เรื่องอะไรด้วยกันมากมายในระยะเวลาหนึ่งเดือน อันที่จริงก็อยากรู้นะว่าชุดประหลาดที่ใส่แล้วเดินกลางเมืองนั่นคืออะไร 5555555555 อีกอย่างหนึ่งที่ทำให้เราเขินแบบไม่รู้จะเขินทำไมก็คือทุกครั้งที่เขาจูบกัน คือมองความบงการในตัวจงอินออกมาว่ามันต้องบังคับน้องแน่ แต่ที่น่าตกใจกว่านั้นคือเซฮุนดันไม่คิดว่ามันแปลกและเขาก็ไม่ขัดขืน แม่เอ๊ย เสร็จโจรเฉยเลย ไงล่ะ อีนี้เป็นผีบ้า ต้องอ่านไปหยุดไป บอกจากใจว่าตอนแรกคิดว่าเรื่องมันอาจจะเศร้า ไม่รู้เพราะอะไรแต่เราดันคิดไปเองซึ่งเอ็มก็บอกว่าถ้าเราอ่านแล้วเราจะชอบ ผลปรากฏว่าไม่ใช่แค่ชอบธรรมดา ชอบมากด้วย ชอบตอนจบของเรื่องที่สุดท้ายแล้วทั้งหมดที่อ่านมาก็คือการบอกรักของคิมจงอิน บก. หนังสือที่มีเพื่อนบ้าบอ (โคตรชอบตอนที่คยองซูยื่นกล่องคอนด้อมให้เลยอ่ะ ขำก๊าก แล้วก็อีกอันคือซีนแรกที่จงอินพกเอาไว้ด้วยกล่องหนึ่งด้วยความที่ว่าอาจจะได้เมียกลับโซล อยากเบิ๊ดกะโหลกหนาๆ ซักที) สุดท้ายนี้ก็ไม่รู้จะพูดว่าอะไร หนังสือเล่มเดียวแต่ทำให้เรารู้สึกมีความสุขไปกับมันได้ เป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูก แต่ว่ารู้สึกดีมากตั้งแต่ต้นจนจบ หัวเราะไปกับจงอินแล้วก็รู้สึกดีไปพร้อมๆ กับเซฮุน ตอนแรกก็ยังไม่เข้าว่าคำว่า ‘ความเงียบสีขาว’ ดีเท่าไหร่ แต่พอได้อ่านมาถึงตอนจบถึงได้รู้ว่าทั้งหมดนั่นก็คือเซฮุน และหนังสือเล่มนี้ก็คือตัวตนของเซฮุน ซึ่งในความรู้สึกของเราน้องอาจจะไม่ได้เจอเรื่องที่มีแต่สีขาวมาในชีวิต มันถูกแต่งแต้มด้วยสีทะมึนๆ มาหนักหนาอยู่พอสมควร แต่ในท้ายที่สุดแล้วสีขาวที่มีอยู่ในตัวเขามันมีมากกว่า มีมากจนกระทั่งมันเป็นขาวบริสุทธิ์และมองไม่เห็นสีอื่นๆ อีกแล้ว ขอบคุณที่จงอินตัดสินไปช็อลลาใต้และเจอกับเด็กขี้จัการยาน กังหันลมหัก แล้วก็เอ้อ! ประทับใจเรื่องที่เขาทำกังหันลมอันใหม่ให้ด้วย ความใส่ใจเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่เล็กเลย เรารู้เลยว่าคนรับต้องรู้สึกดีมากแน่ๆ อ่านน้อยลง
MRBRIGHTSIDE94' | 17 ก.ย. 58
11
0
ความคิดเห็น